เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           หลายคนมองว่าการลดน้ำหนักเปรียบเสมือนยาขมสำหรับคนอยากมีหุ่นดี แต่ถ้าหากรู้เคล็ดลับในการฝึกให้ถูกจุดก็อาจไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้นก็ได้ และเป็นที่ทราบกันดีว่าระบบเผาผลาญมีส่วนอย่างมากต่อประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก โดย เจมี่ ซอว์เยอร์ ผู้ออกแบบวิธีการออกกำลังกายที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้ ได้กล่าวไว้ในบทความบนเว็บไซต์ menshealth.co.uk ว่ากุญแจสำคัญช่วยเร่งการเผาผลาญคือ จังหวะในการฝึก โดยเฉพาะช่วงที่ร่างกายต้องออกแรงต้าน จะเป็นช่วงที่สามารถเร่งกระบวนการเผาผลาญได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งก็จะมีท่าทางการบริหารที่ช่วยเร่งให้เกิดกระบวนการเหล่านั้นอยู่หลายท่า งั้นตอนนี้เราไปดูกันเลยดีกว่าครับว่ามีท่าอะไรบ้าง

            Top-half squat



           - ทำ 4 เซต เซตละ 3 ครั้ง

              เริ่มต้นโดยการพักบาร์เบลไว้ที่บ่า จากนั้นย่อตัวลงในท่าsquatอย่างช้า ในจังหวะที่ยืดตัวขึ้นให้หยุดในตำแหน่ง 45 องศาแทนที่จะยืนขึ้นจนสุด หากทำท่านี้ติดต่อกันบ่อย ๆ ร่างกายของคุณจะคุ้นชินกับการยกน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

            Dumbbell jump squat



           - ทำ 4 เซต เซตละ 6 ครั้ง

           การบริหารท่านี้ทำได้โดยการยืนกางขาให้กว้าง โดยมือทั้งสองข้างถือดัมเบลเอาไว้แนบลำตัว จากนั้นย่อตัวลงในท่าsquatให้ต่ำที่สุด เมื่อมาถึงจังหวะที่ต้องยืดตัวขึ้น ให้ใช้การดีดขาจากพื้นให้แรง และทรงตัวโดยใช้หัวแม่เท้ารับน้ำหนักในยามที่เท้าแตะพื้น 

            Pistol squat


           - ทำ 6 เซต เซตละ 4 ครั้ง

           ท่านี้อาจจะดูยากไปสักหน่อยเพราะต้องอาศัยเทคนิคการทรงตัวบนขาเพียงข้างเดียว ส่วนขาอีกข้างหนึ่งกางไปข้างหน้าให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกันนั้นให้ยื่นแขนทั้งสองข้างไปข้างหน้าเพื่อรักษาความสมดุล เมื่อจัดระเบียบร่างกายได้้แล้วจึงค่อย ๆ ย่อตัวลงในท่าsquatให้ต่ำที่สุด และค่อย ๆ กลับขึ้นมาสูท่าเริ่มต้นตามปกติ

            Rack Pull



           - ทำ 4 เซต เซตละ 3 ครั้ง
                  
           เริ่มต้นจากการวางบาร์เบลไว้บนกล่องหรือแท่นที่มีความสูงระดับหัวเข่า จากนั้นให้ออกแรงยกจนกระทั่งขาเหยียดและไหล่ตั้งตรง ซึ่งท่าบริหารนี้จะช่วยเร่งให้เกิดการเผาผลาญในร่างกายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อหลายกลุ่ม

            Romanian deadlift

 
           - ทำ 6 เซต เซตละ 4 ครั้ง

           จับบาร์เบลที่วางอยู่บนพื้น โดยให้มือทั้งสองข้างมีระยะห่างกว้างกว่าช่วงไหล่ จากนั้นค่อย ๆ ยกบาร์ให้สูงขึ้นในลักษณะที่แขนเหยียดตรง ระดับความสูงที่ได้จะอยู่กึ่งกลางระหว่างหัวเข่าและสะโพก ลองฝึกดูเรื่อย ๆ จนกว่าขาของคุณจะเคยชินกับน้ำหนักของบาร์

            Hip raise 

           - ทำ 4 เซต เซตละ 12 ครั้ง

              เข้าสู่ท่าเตรียมพร้อมด้วยการนอนหงายและชันเข่าขึ้นโดยให้ฝ่าเท้าแนบไปกับพื้น จากนั้นวางบาร์เบลให้อยู่ตรงบริเวณท้องน้อยแล้วใช้มือทั้งสองข้างจับเอาไว้ ขั้นตอนต่อไปคือยกสะโพกขึ้นช้า ๆ ให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสร็จแล้วแล้วค่อย ๆ เคลื่อนตัวกลับสู่ท่าเริ่มต้นอีกครั้ง

           หากปฏิบตามขั้นตอนที่กล่าวมาให้ได้อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็น่าจะช่วยให้คุณพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ออกมาไม่น้อยเลยนะครับ อย่างไรก็ตาม หากจะหวังพึ่งแต่การบริหารด้วยเคล็ดลับเหล่านี้อย่างเดียวก็คงจะไม่เห็นผลเต็มที่ ฉะนั้น อย่าลืมควบคุมอาหารควบคู่กันไปด้วย จะได้ไม่เหนื่อยเมื่อต้องการลดน้ำหนักมากยังไงล่ะคร้าบบบ