www.midwestdentalgroup.com

เชื่อว่าอาหารจานเด็ดของใครหลายคน ต้องมีเมนูไข่เข้ามาเกี่ยวข้องแน่ๆ เพราะไม่ว่า จะนำไข่ไปทำเมนูใดก็ตาม ความอร่อยก็ไม่ ลดน้อยลงเลย แถมยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์ ต่างๆ มากมาย ไปดูกันดีกว่าว่าไข่ฟองเล็กๆ ที่เราทานกันนั้นมีประโยชน์อะไรแฝงอยู่บ้าง

1. ทำให้เส้นผมและเล็บมีสุขภาพดี เพราะไข่มีซัลเฟอร์สูง รวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุ อีกหลายชนิด หลายคนจึงพบว่าผมยาวเร็วขึ้นหลังจากที่เพิ่มไข่เข้าไปในอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคยขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี 12 มาก่อน

2. เป็นแหล่งโคลีนที่ดี โดยโคลีนอยู่ใน กลุ่มของวิตามินบี จัดเป็นสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยในการควบคุมการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด โดยไข่ 1 ฟองจะมีโคลีนมากถึง 300 ไมโครกรัม

3. อาหารที่ดีสำหรับดวงตา ผลการศึกษา ชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานไข่วันละฟองอาจ จะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ทั้งนี้ เนื่องมาจากสารคาโรทีนอยด์ที่อยู่ในไข่ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบบริเวณตา โดยฉาบอยู่ บนผิวของเรตินา ซึ่งร่างกายจะได้รับสารอาหารทั้งสองอย่างนี้โดยตรงจากไข่มากกว่าอาหารชนิดอื่น

4. ไม่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ ผลจากการ ทำวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างการบริโภคไข่ กับการเกิดโรคหัวใจ แถมยังมีผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่า การบริโภคไข่เป็นประจำยังช่วยป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน เส้นเลือดอุดตัน ในสมอง และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

5. ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานไข่ 6 ฟอง ต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง เต้านมลงร้อยละ 44

6. ได้วิตามินดี เพราะไข่เป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เป็นแหล่งวิตามินดีตามธรรมชาติ และยังอุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคุณภาพดี 6 กรัม และกรดอะมิโนสำคัญอีก 9 ชนิด

7. ไม่มีผลต่อระดับคอเรสเตอรอล แม้ว่าออกจะขัดแย้งกับความเชื่อเดิมๆ แต่งานวิจัย ชิ้นใหม่กลับพบว่า การบริโภคไข่แต่พอสมควรจะ ไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อปริมาณคอเรสเตอรอล มิหนำซ้ำยังมีการศึกษาพบเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การบริโภค ไข่วันละ 2 ฟองเป็นประจำทุกวันไม่มีผลกระทบ ต่อระดับไขมันในร่างกาย มิหนำซ้ำอาจจะช่วยทำให้ไขมันดีขึ้น โดยผลการวิจัยกล่าวว่า ไขมัน อิ่มตัวจะทำให้ระดับคอเรสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าคอเลสเตอรอลที่อยู่ในอาหารซะอีก

ที่มา : http://men.sanook.com/5109/